5.7.54

ที่สุดแห่งพลังซูมเอฟกว้าง Sigma 120-300mm F2.8 EX DG OS APO HSM

   
   ปกติในวงการภาพถ่ายของบ้านเราก็มักจะคุ้นเคยกับเลนส์ซิกม่าขอบแดง ราคาหกเจ็ดพันปลายๆ อย่าง Sigma 70-300 APO Macro ปกติในวงการภาพถ่ายของบ้านเราก็มักจะคุ้นเคยกับเลนส์ซิกม่าขอบแดง ราคาหกเจ็ดพันปลายๆ อย่าง Sigma 70-300 APO Macro ซึ่งเป็นเลนส์ที่ทั้งมือใหม่และมืออาชีพต้องเคยผ่านมาบ้าง ไม่เว้นแม้แต่ผู้เขียนเองก็เคยใช้เลนส์รุ่นนี้เหมือนกัน เลนส์ Sigma มักจะเป็นเลนส์ที่คุ้มค่ากับราคาอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็น 10-20mm / 17-50mm f2.8 / 70-200mm f2.8 ซึ่งราคาของเลนส์ค่ายนี้ก็ค่อนข้างถูกกว่าของค่ายกล้องมากพอสมควร ยังไม่นับเลนส์ Fix ที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น 50mm f1.4 หรือ 85mm f1.4 ที่ขาดตลาดกันไปแล้ว นอกจากเลนส์เหล่านี้ Sigma ก็ยังมีความถนัดเลนส์ซูปเปอร์ซูมอย่าง 120-400mm หรือ 150-500mm เช่นกัน และวันนี้ก็มีเลนส์ Sigma 120-300mm f2.8 ออกสู่ตลาด ผมไม่ได้พิมพ์ผิดแน่นอนครับ f2.8 ตลอดช่วง
สำหรับผมแค่ 70-200mm f2.8 มันก็หรูแล้วครับ ซึ่งเปิดตัวเลนส์ซูมเอฟกว้างพร้อมระบบกันสั่นไปไม่นาน ราคาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลครับ ไม่เหมือนของค่ายกล้อง ราคาก็ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจได้ แต่สำหรับ Sigma 120-300mm F2.8 EX DG OS APO HSM (ยศยาวซะเหลือเกิน) จะเป็นไปได้หรือ มีระบบกันสั่นด้วย และเลนส์ทรงพลังขนาดนี้เอาไปทำอะไรกัน
ก่อนหน้านี้ทาง Sigma เองก็มีซูปเปอร์ซูมอย่าง Sigma 120-400mm F4.5-5.6 DG APO OS HSM หรือ Sigma 150-500mm F5-6.3 APO DG OS HSM อยู่มาบ้าง โอเคตัว Sigma 120-400mm ก็พอจะมาสู้กับ EF 100-400L IS ของ Canon ได้อยู่ ส่วนตัว Sigma 150-500mm นั้นคอถ่ายภาพนกก็คงคุ้นเคยดี แล้ว Sigma 120-300mm F2.8 EX DG OS APO HSM นั้นอยู่ตรงกลางระหว่างความต้องการช่วงซูมเยอะๆ และใช้งานในบริเวณที่แสงไม่อำนวยด้วย ซึ่งก็ยังไม่เคยมีเลนส์เจ้าไหนทำได้ เหมือนอารมณ์ที่ Sigma 12-24mm ซึ่งใช้กับกล้อง Full Frame ได้นั่นแหละ ค่ายกล้องหงายเก๋งไปตามๆ กัน เนื่องจากเป็นเลนส์มุมกว้างที่สุดในโลก
สเปคของเลนส์ตัวนี้ครับ

   ดูสเปคเสร็จนึกถึงภาพนี้เลยครับ ฟิลเตอร์ 105mm ฟิลเตอร์ขนาดเท่ากับปืนใหญ่ประจำกองทัพไทยเลยครับ 105mm ซึ่งแน่นอนให้เดาน่าจะใส่ได้แต่คงเป็นทางด้านหลัง หน้าเลนส์ใหญ่มาก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเลยครับ
สรุปกันหน่อยว่ามีอะไรที่เจ๋งบ้างสำหรับเลนส์ตัวนี้
- f2.8 ตลอดช่วง เหลือล้นเกินความจำเป็น
- 120-300mm ซึ่งสามารถนำมาถ่ายภาพนก Portrait Widelife Candid ได้แน่นอน
- มีระบบกันสั่นแบบ OS ของซิกม่า
- มอเตอร์ความเร็วสูง HSM

จุดสังเกตุ
- ฟิลเตอร์ 105mm
- น้ำหนัก 3 กิโล
- ราคา 149000 คูณจากค่าเงิน 30 บาทกว่าๆ


ข้อมูลข่าว


Nokia 5230 เบียด iPhone, Android ครองเบอร์หนึ่งมือถืออินเทอร์เน็ตในประเทศจีน!


    แม้ว่าตลาดสมาร์ตโฟนในประเทศจีนเวลานี้จะค่อนข้างเติบโตแบบก้าวกระโดดชนิดที่เรียกได้ว่าไม่ว่าจะมีมือถือรุ่นใหม่ๆตัวไหนออกมาชาวจีนก็จะได้มีสิทธิ์ใช้งานก่อนชาวบ้านชาวช่องทั่วไปเขา ทว่ากับสถิติล่าสุดที่ออกมานั้นดูจะน่าแปลกใจอยู่ไม่น้อยทีเดียวเมื่อมีการระบุตัวเลขออกมาแล้วว่าโทรศัพท์มือถือที่ชาวจีนใช้งานในการท่องเว็บเบราเซอร์มากที่สุดหาใช่ iPhone 4 หรือสมาร์ตโฟนAndroid หลากรุ่นหลายยี่ห้อแต่อย่างใดไม่ ทว่ากลับเป็นมือถือแบบบ้านๆอย่าง Nokia 5230 เสียอย่างนั้น!
   โดยรายงานดังกล่าวได้รับการเปิดเผยโดยบริษัทการตลาดแห่งหนึ่งที่จัดทำสถิติสำรวจเพื่อหาว่าคนจีนส่วนใหญ่ใช้มือถือประเภทไหนกันแน่ในใช้งานอินเทอร์เน็ตและโลกออนไลน์ต่างๆ ซึ่งผลที่ออกมานั้นก็ค่อนข้างจะเซอร์ไพรส์อยู่ไม่น้อยว่าชาวจีนส่วนใหญ่ยังยึดติดอยู่กับแบรนด์ Nokia (เจ้า Nokia 5230 ที่ว่าก็ออกวางขายตั้งแต่ปี 2009 นู่นแล้ว) และ Symbian OS ที่ค่อนข้างล้าสมัยไปแล้วในการใช้งานอินเทอร์เน็ตนอกบ้าน ในขณะที่ iPhone รั้งอันดับสองตามมาด้วยตัวเลขห่างอยู่พอประมาณส่วนสมาร์ตโฟน Android นั้นรั้งอันดับห้าแบบต่างกันครึ่งต่อครึ่งกับ Nokia 5230 เลยทีเดียว
  สำหรับสาเหตุหลักๆที่ทำให้ Nokia ยังคงครองใจชาวจีนส่วนใหญ่ก็ด้วยความที่มันมีราคาขายที่ค่อนข้างจะถูกมากหากเทียบกับiPhone ที่ผู้ใช้งานยังคงเป็นกลุ่มเจ้าขุนมูลนายเสียเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ Ovi App Store ของ Nokia ก็ยังถือได้ว่าเป็นแหล่งจำหน่ายแอปพลิเคชันแบบออนไลน์ที่มีผู้เข้าใช้งานสูงสุดในประเทศจีนถึง 65.2% เหนือกว่า App Store (13.7%) ของApple และ Google Android Market (9.4%) ประมาณเกือบๆ 3-4 เท่าเสียด้วยสิ

ข้อมูลโดย

iPhone 5 ล็อตแรกเริ่มกระบวนการผลิต 15 ล้านเครื่อง, Apple พร้อมจำหน่ายกันยายนนี้!


      โดยบริษัท Pegatron ดังกล่าวซึ่งรับหน้าเสื่อเป็นผู้ผลิต iPhone 4 CDMA (Verizon) ด้วยนั้นกล่าวว่าพวกเขาได้เริ่มจ้างแรงงานเข้ามาเพิ่มเพื่อรับมือกับปริมาณความต้องการสินค้า iPhone 5 จากผู้บริโภคทั้งหลายที่คาดว่าคงจะล้นหลามเช่นเคยอย่างแน่นอน ซึ่งเจ้า iPhone 5 จะพร้อมออกวางจำหน่ายภายในเดือนกันยายนนี้ ทว่าใครที่อยากจะเห็นฟีเจอร์ใหม่ๆหรือนวัตกรรมพลิกโลกคงจะต้องผิดหวังเล็กน้อยเพราะทาง Pegatron ยืนยันว่า iPhone 5ที่ว่านี้จะเป็นเพียงการอัพเกรดเครื่อง iPhone 4 รุ่นก่อนด้วยคุณสมบัติใหม่เล็กๆน้อยๆเท่านั้น (ถ้าจะเรียกว่าเป็นรุ่น iPhone 4Sก็คงไม่ผิดนัก)สำหรับ iPhone 5 นั้นมีข่าวลือความเคลื่อนไหวเข้ามาอย่างต่อเนื่องทีเดียวในช่วงนี้ โดยหลายฝ่ายคาดการณ์กันว่าตัวเครื่องได้เข้าสู่กระบวนการทดสอบขั้นสุดท้ายก่อนวางขายจริงแล้วและจะมาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ๆเช่นซีพียู A5 แบบ Dual Core ตัวเดียวกับใน iPad 2, กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รองรับทั้งระบบ GSM และ CDMA รวมไปจนถึงดีไซน์ภายนอกที่ยังไม่น่าจะเปลี่ยนโฉมออกไปจาก iPhone 4 มากนักด้วย
มาอีกแล้วกับข่าวดีข่าวเด็หลังเว็บไซต์ Digitimes รายงานว่าบริษัท Pegatron จากประเทศไต้หวันซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ให้กับ Apple ออกมายืนยันแล้วว่าพวกเขาได้รับออร์เดอร์ในการเดินสายกระบวนการผลิตล็อตแรกสำหรับ iPhone 5 จากทาง Apple มาแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 15 ล้านเครื่องด้วยกัน
ข้อมูลข่าว

Sony เริ่มผลิต PlayStation 4 เครื่องเล่นเกมแห่งอนาคต พร้อมวางขายปี 2012

    
   มีรายงานข่าวออกมาจากบริษัท Foxconn and Pegatron Technology ผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของ Sonyในไต้หวันกล่าวว่า บริษัท Sony Computer เตรียมที่จะเดินหน้าผลิต PlayStation 4 หรือ PS4 เครื่องเกมสุดฮิตแห่งอนาคต โดยมีกำหนดที่จะวางจำหน่ายภายในปี 2012 PS4 จะมีระบบการทำงานโดยเน้นให้ผู้เล่นได้เคลื่อนไหวร่างการในการเล่น เหมือนกันเครื่อง Wii ของ Nintendo หรือKinect บน Xbox360 ของค่ายคู่แข่งสำคัญอย่าง Microsoft โดย Sony คาดว่าจะผลิตเครื่องเล่นเกมแห่งอนาคตPlayStation 4 ถึง 20 ล้านเครื่อง และวางจำหน่ายภายในปีหน้าที่จะถึงนี้



ข้อมูลโดย



Tablet 7 นิ้ว Sharp Galapagos ผ่าน FCC แล้ว


 Sharp Galapagos เป็น Tablet Android ที่ทาง Sharp น่าจะนำเข้ามาตีตลาดที่ US ด้วยการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ออกเป็นหลายรุ่น
Sharp ก็เป็นเอีกแบรนด์ที่เข้ามาลุยในตลาด Mobile กับเขาด้วยเช่นกัน โดยตอนนี้พวกเขากำลังทำ Tablet Android ออกมาแข่งกับเจ้าอื่นด้วย แต่น่าเสียดายที่รายละเอียดต่างๆยังไม่มีเผยออกมาแต่อย่างใด นอกจากรู้เพียงว่าขนาดของตัวเครื่องและชื่อจองมันโดยตัวเครื่องนี้มีชื่อว่า "Galapagos"
สำหรับชื่อนี้เคยมีข่าวลืออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะเป็น Tablet ที่มีขนาด 5 และ 10 นิ้ว และสำหรับรุ่น 10.8 นิ้วผ่านการตรวจสอบจากทาง FCC ไปได้สักพักแล้ว แต่วันนี้เองมีอีกรุ่นคือ 7 นิ้ว ก็ผ่าน FCC แล้วเช่นกัน
แน่นอนว่าถ้าผ่าน FCC แบบนี้แสดงว่าคงจะนำมาจำหน่ายที่ประเทศ US อย่างแน่นอน ตอนนี้ดูเหมือนว่า Galapagos จะถูกแบ่งเป็นหลายขนาดมาก แถมตัว OS ที่จะใช้ก็น่าสนใจก็น่าสนใจ ถ้าให้เดาคือน่าจะเป็น Android Honeycomb ไม่ก็ Ice Cream Sandwich ไปเลย ทาง Sharp เองน่าจะมองเอา Tablet เข้ามาขายด้วยราคาที่ไม่แพงนักเพื่อต่อกรกับ iPad 2 และ Xoom และอื่นๆ




ขอบคุณข่าว

Samsung จัด Nexus S ราคาพิเศษเพียง 11,900 บาทเเอง !!

   Samsung เล่นหนักอีกแล้ว โดยจับมือกับ Samsung Party ลดราคา Nexus S เหลือเพียง 11,900 บาทเท่านั้น

Samsung ประเทศไทย เขย่าตลาด Android แรงๆ อีกครั้ง โดยจัดแคมเปญ ลดราคา Samsung Nexus S จากราคา 14,900 บาท เหลือเพียง 11,900 บาท จำนวนจำกัดเพียง 300 เครื่องเท่านั้น ผ่านช่องทาง samsungparty.com

ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อโหลดรับคูปองส่วนลด 3,000 บาท เพื่อไปแลกซื้อได้ที่ Studio Phone 

ข้อมูลข่าว

Amazon Tablet เปิดตัวปีนี้


  หลังจากประสบความสำเร็จกับ Kindle ไปแล้ว Amazon ก็ยังแอบซุ่มพัฒนา Tablet รุ่นใหม่ตามกระแสนิยมพร้อมเปิดตัวในปีนี้
ไหน ๆ Kindle ก็ยังมีชื่อและยอดขายไม่เลวเลย Amazon ก็เตรียมลุยตลาด Tablet สู้กับ iPad2 กับเขาบ้างด้วยการซุ่มพัฒนา Tablet แบรนด์ของตัวเองถึง 2 รุ่น แหน่ะแถมยังใช้ Android อีกต่างหาก รหัสพัฒนา Coyote (นึกถึงสาวบาร์เหล้าชอบกล **) และ Hollywood และว่ากันว่า Amazon สั่งซัพพลายเออร์ Quanta ปั๊ม Tablet ตัวเก่งถึงปีละ 7-8 แสนตัว

Amazon Coyote (ไม่ Ugly) จัดสเปคชิป Nvidia Tegra2 ส่วน Amazon Hollywood ใช้ชิปแบบ Quad Core "kal-ed" ปัญหาสำคัญของ Amazon สั่งผลิตจำนวน 1.5-2 ล้านเครื่องภายในเดือนกันยายน แต่เมื่อ iPad2 ประสบความสำเร็จอย่างสูงก็ทำให้คู่แข่งทุกรายต้องขบคิดกันอย่างหนักเลยที เดียวว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี เพราะซัพพลายเออร์ผลิตหน้าจออย่าง TPK ก็ต้องผลิตหน้าจอให้ iPad เสียก่อน

ข้อมูลข่าว

แอลจีเผยโฉม ‘Optimus Pad’ แท็บเล็ตกล้อง 3D รุ่นแรกของโลก


     แอลจี เปิดตัวแท็บเล็ต LG Optimus Pad พร้อมกล้อง 3 มิติเป็นรุ่นแรกของวงการ หน้าจอขนาด 8.9 นิ้ว มาพร้อมฟีเจอร์และมัลติมีเดียครบครัน ตอบโจทย์การใช้งานเพื่อธุรกิจและความบันเทิง…
นายสมศักดิ์ อธิศัยตระกูล หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า LG Optimus Pad นับเป็นความสำเร็จอีกครั้งของแอลจี ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมนวัตกรรมครั้งแรกของโลกสู่ตลาดไทย ด้วยความพิเศษของกล้อง 3 มิติ สามารถบันทึกวิดีโอสามมิติได้สมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังมีดีไซน์แตกต่างด้วยขนาดที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกเพียงมือเดียว เชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ครบถ้วน ทั้งธุรกิจ การศึกษา และความบันเทิง
ทั้งนี้ LG Optimus Pad มาพร้อมหน้าจอ 8.9 นิ้ว ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายด้วยมือเดียว มีขนาดพอเหมาะสำหรับการแสดงผล จอภาพสัดส่วน 15:9 รองรับการแสดงผลทุกแอพพลิเคชั่นบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์อย่างสมบูรณ์แบบ ความละเอียดระดับ 1280×768 WXGA ให้สามารถรับชมภาพยนตร์และมัลติมีเดียในรูปแบบจอไวด์สกรีนความละเอียดสูงได้เต็มอรรถรส ภายใต้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชัน 3.0 (Honeycomb) ซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ ทำให้มีอินเทอร์เฟซที่ออกแบบมาให้คล้ายกับการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ ช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกคุ้นเคย
LG Optimus Pad ให้สมรรถนะการประมวลผลด้วยชิพ NVIDIA Tegra 2 ที่มีหน่วยประมวลผลแบบดูอัลคอร์ ความเร็ว 1 GHz ให้ประสิทธิภาพมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิงและการท่องเว็บรวดเร็ว ทั้งยังใช้งานแอพพลิเคชั่นและมัลติทาสก์กิ้งได้อย่างราบรื่น ขณะที่ กล้อง 3 มิติ ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอเป็นไฟล์ 3 มิติได้ทันที ทั้งยังเชื่อมต่อเพื่อรับชมผ่านทีวี 3 มิติ ได้อย่างสะดวกผ่านพอร์ท HDMI หรืออัพโหลดไปยัง YouTube 3D เพื่อรับชมผ่านเว็บไซต์ได้ที่ www.youtube.com/3D นอกจากนี้ LG Optimus Pad ยังแสดงไฟล์วิดีโอได้ที่ความละเอียด Full HD แบบ 1080 เฟรม ช่วยให้ถ่ายโอนคอนเทนต์ไปยังโทรทัศน์ที่มีความคมชัดเหมือนต้นฉบับ และมีฟังก์ชันประชุมทางไกลผ่านวิดีโอในตัวเหมาะสำหรับนักธุรกิจที่ต้องเดินทางบ่อย อย่างไรก็ตาม LG Optimus Pad มีวางจำหน่ายแล้วในราคา 24,900 บาท.

ส่วนตัว Spec ของ LG Optimus Pad นั้นก็มีดังนี้ :

- หน้าจอ 8.9 นิ้ว ความละเอียด WXGA 1280×768
- น้ำหนัก 654 กรัม
- CPU NVIDIA Tegra 2 dual-core 1GHz
- กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อม dual-lens เพื่อถ่ายภาพและวีดีโอ 3 มิติ
- Android 3.0 Honeycomb
- HDMI 1.4
- เล่นไฟล์ 3 มิติได้โดยที่ต้องใส่แว่น และแว่นมีขายต่างหาก
- เล่นไฟล์วีดีโอ 1080p ได้







ข้อมูลข่าว

บอทเน็ตใหม่ติดพีซี 4.5M พร้อมยิงสแปม

 รายงานข่าวล่าสุด นักวิจัยระบบรักษาความปลอดภัยเผย พบไวรัสพันธุ์ใหม่สามารถแพร่กระจายไปยังคอมพิวเตอร์ที่รัน Windows มากกว่า 4.5 ล้านเครื่องภายใน 3 เดือน นอกจากนี้ พวกมันยังเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ของเหยื่อให้กลายเป็น"บอทเน็ต" (botnet) ที่ยากต่อการทำลายอีกด้วย
 เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญพบ"บอทเน็ต"ที่ยากต่อการทำลาย แพร่กระจายติดไปยังคอมพิวเตอร์ทั่วโลกหลายล้านเครื่อง โดยส่วนใหญ่จะเป็นคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ในสหรัฐฯ สำหรับบอทเน็ตอันครายที่พนี้มีชื่อว่า TDL ซึ่งแพร่กระจายติดไปยังคอมพิวเตอร์ที่รัน Windows มากกว่า 4.5 ล้านเครื่องในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้สร้างบอทเน็ตได้ทำให้มันสามารถต่อกรกับซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยได้
 ผู้เชี่ยวชาญจาก Kaspersky Labs กล่าวว่า การอัพเกรดความสามารถของบอทเน็ตตัวร้ายครั้งล่าสุด (นับเป็ฯครั้งที่ 4 แล้ว) ทำให้มันได้ชื่อใหม่ว่า TDL-4 ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่มีความซับซ้อนมากทีสุดวันนี้ "ผู้สร้าง TDL พยายามที่จะทำให้มันเป็นบอทเน็ตที่ยากต่อการทำลาย โดยมันสามารถป้องกันตัวเองจากการถูกโจมตีจากซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส" ทั้งนี้บอทเน็ตดังกล่าวจะติดเข้าไปยังคอมพิวเตอร์ผู้ใช้ตามบ้านที่เชื่อมต่อเน็ต และเปลี่ยนตัวเองเป็นเครือข่ายอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่ควบคุมสั่งการผ่านเน็ตได้ เป้าหมายของมันคือ การขโมยข้อมูลจากเหยื่อ และใช้เครื่องพีซีที่ตกเป็นเหยื่อสแปมเมล์
TDL จะซ่อนตัวอยู่ในเว็บไซต์ต่างๆ โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่มีภาพโป๊ และภาพยนตร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ เมื่อผู้ใช้เข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์เหล่านี้ พวกมันก็จะติดตั้งตัวเองเข้าไปในระบบไฟล์ของ Windows ที่ยังไม่ได้ติดตั้งแพตช์อุดช่องโหว่ของไมโครซอฟท์ แม้รายงานข่าวก่อนหน้านี้จะมีการเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ Symantec เปิดเผยว่า มีการลดจำนวนของ SPAM ลงได้ถึง 75% แต่ดูเหมือน TDL-4 จะเป็นหนึ่งในมัลแวร์ที่พยายามจะทำให้สถิติดังกล่าวเปลี่ยนกลับไปตรงกันข้าม นักวิจัยกล่าวว่า ผู้สร้าง TDL-4 ได้พัฒนาระบบเข้ารหัสของตนเอง เพื่อห่อหุ้มตัวเองให้รอดพ้นจากการดักจับ ซึ่งทำให้มันเป็นไวรัส-บอทเน็ตที่ตามล่า และกำจัดได้ยากทีสุดในปัจจุบัน

ข้อมูลข่าว

4.7.54

สาวก iPad 2 เตรียมตัว Jailbreak มา


    บรรดาสาวกแท็บเบลตค่ายผลไม้ที่ตั้งตารอการ Jailbreak โปรดฟังทางนี้ ขณะนี้ทาง Comex ผู้พัฒนาโปรแกรม JailbreakMe ที่ใช้สำหรับแหกคุกน้อง iPad 2 ได้ทำการ Jailbreak ผ่านแล้ว (ดังภาพด้านบน) เหลือแต่ยังมีบั๊กบางประการที่อาจจะทำให้เรา ๆ ปวดหัวได้ถ้าเกิดได้ปล่อยออกมาตอนนี้ แต่ทางด้าน Comex เองก้ทำการ Tweet บอกอย่างเป็นทางการแล้วว่ามาแน่ เนื่องจากเข้าสู่ช่วง Beta แล้ว สาวกที่ชอบแหกคุกทั้งหลายก็เตรียมตัวติดตามข่าวอย่างกระชั้นชิดเลยละกันนะครับ รับรองว่าได้แหกสมใจอย่างแน่นอน

ขอคุณข่าว

“One Charger for All” ชาร์จ iPad 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน



ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสสินค้า IT ต่างๆค่อนข้างมาแรง และมีอิทธิพลอย่างมากต่อวิถีชีวิตของผู้บริโภค ดังจะเห็นได้จากการเปิดตัวของ Tablet PC ยี่ห้อต่างๆ ที่ทยอยกันออกมานำเสนอเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่เพื่อโลก Digital จำนวนของ IT mania ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังจะเห็นได้ว่าปัจจุบันผู้บริโภคพกพาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 1 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือ Tablet PC, Mp3, GPS, E-book, และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก สร้างความบันเทิงส่วนตัว รวมถึงการใช้ในธุรกิจ
จำนวนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาที่มากขึ้นนั้นย่อมหมายถึง การพกพาอุปกรณ์ชาร์จ หรือ อะแด๊ปเตอร์ที่มากตามไปด้วย แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราเพียงแค่พกอุปกรณ์การชาร์จ หรือ อะแด๊ปเตอร์เพียงแค่ตัวเดียวเพื่อชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาต่างๆ เหล่านั้น

                   2 Devices at the same time

ดังนั้นเมื่อเร็วๆ นี้ Innergie ได้นำเสนอนวัตกรรมใหม่ทางด้านพลังงาน เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้าน Power Solution โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ “mMini AC 15W” สุดยอดที่ชาร์จแบบ Dual USB Port Charger ด้วยประสิทธิภาพสูงสุดในการจ่ายไฟถึง 15 วัตต์ ทำให้สามารถชาร์จ Tablet PC ยอดนิยมเช่น iPad ได้ถึง เครื่องในเวลาเดียวกันได้อย่างรวดเร็ว 
นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จร่วมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาอื่นๆ ได้มากกว่า 10,000รายการ อาทิเช่น  iPhone, iPod, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ , GPS, E-Book, MP3 Player, Game Console และอื่นๆ อีกมากมาย  มากกว่าไปนั้นสินค้าของ Innergie ทุกตัวยังมีระบบป้องกันอันตรายที่จะเกิดจากไฟฟ้าถึง 5 ระบบ หรือ ที่เรียกว่า 5 Build in Protections ช่วยทำให้คุณมั่นใจยิ่งขึ้นว่าสินค้าของ Innergie นั้นปลอดภัยจากอันตรายที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน พร้อมการรับประกันสินค้าถึง 3 ปีทั่วโลก
ทั้งนี้ด้วยประสบการณ์อันยาวนานจากบริษัทแม่ระดับโลก “Delta Electronics และ ยังเป็นผู้ผลิตสินค้า Power Supply อันดับ 1 ของโลก ซึ่งผลิตสินค้าให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกต่างๆ อาทิเช่น Apple, Microsoft, Google, Acer, Asus, Dell, Samsung และอื่นๆ อีกมากมาย คงเป็นเครื่องการันตีถึงประสิทธิภาพ และคุณภาพของสินค้าในระดับ World Class ให้กับ Innergieได้อย่างแน่นอน
สนใจเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ของ Innergie ได้ที่
Banana IT, BeTrend, iStudio, IT City, King Power, .Life, Power Buy, U-Store

ข้อมูลข่าว






Motorola XOOM อีกหนึ่งแท็บเล็ต สเป็คแรง

    ตั้งแต่ส่งสมาร์ทโฟนสุดอึด Motorola DEFY ออกมาทำตลาดในบ้านเราเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และพกเอากระแสตอบรับที่เรียกได้ว่าดีพอสมควรกลับบ้านไป หลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าข่าวคราวของโมโตโรล่าจะซาลงไปเสียเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ดี ถ้าใครที่ได้ไปงาน Thailand Mobile Expo Hi-End 2011 ที่จัดขึ้นเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา และแวะเวียนไปที่บูธของโมโตโรล่า ก็อาจจะเกิดอาการติดใจกับหน้าตาของแท็บเล็ต สินค้าไอทีสุดฮิต ที่มีชื่อว่า Motorola XOOM อยู่ไม่น้อย และยิ่งเป็นแท็บเล็ตที่มีจุดเด่นกับการทำงานบนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ 3.0 (HoneyComb) รวมถึงยังเป็นแท็บเล็ตที่ได้รับรางวัล Best of Show จากงานซีอีเอส 2011 เมื่อต้นปีที่ผ่าน ยิ่งทำให้เจ้าแท็บเล็ตจากสหรัฐฯ เครื่องนี้ทวีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า และเมื่อทางโมโตโรล่าใจดีส่งแท็บเล็ตเครื่องนี้มาให้เราทดสอบ ด้านล่างต่อจากนี้ไปคือความคิดเห็นจากเราที่ได้ทดลองเล่นมาประมาณหนึ่งสัปดาห์ (ซึ่งต้องขอออกตัวก่อนว่า เป็นมือใหม่หัดรีวิว อาจจะมีข้อบกพร่องรวมถึงความผิดพลาดใดๆ  ก็ขอน้อมรับทุกความเห็น )
เล็กน้อย โดยตัวที่เราได้มาทดสอบนั้น หนักราว 730 กรัม ขณะที่เวอร์ชั่นไว-ไฟ จะอยู่ที่ 708 กรัม
ก่อนอื่น เรามาดูข้อมูลจำเพาะของ Motorola XOOM กันเสียก่อน โดยเครื่องที่เราได้รับมาทดสอบนั้นเป็นรุ่น MZ601 ซึ่งเป็นรุ่นที่รองรับทั้งการใช้งานเครือข่ายสามจี และไว-ไฟ แต่ถ้าใครที่ต้องการใช้งานแต่เฉพาะไว-ไฟ ก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะทางโมโตโรล่าได้วางจำหน่ายแท็บเล็ต รุ่น MZ604ซึ่งเป็นรุ่นที่สามารถเชื่อมต่อผ่านไว-ไฟ เพียงอย่างเดียวมาด้วย พร้อมกับราคาค่าตัวที่ถูกกว่า ส่วนเรื่องสเป็คหลักๆ 
ของทั้งสองรุ่นไม่มีความแตกต่างกัน จะมีไม่เหมือนกันอยู่เพียงเรื่องเดียวก็คือ เรื่องของน้ำหนักที่เบากว่า



ข้อมูลข่าว
http://www.pantip.com/tech/techblog/

Tablet: Toshiba Thrive แทบเลต Honeycomb ตัวแรงเตรียมขึ้นห้าง, พร้อมวีดีโอโปรโมท


   แทบเลตตัวแรง Toshiba Thrive ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 3.1 Honeycomb จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว มีความละเอียด 1280x800 พิกเซล ใช้ชิปประมวลผล NVIDIA Tegra 2 และมีจุดเด่นสำคัญอยู่ที่ เครื่องนี้สามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้ มีกล้องสองตัว กล้องหน้าความละเอียด 1.3MP และกล้องหลัง 5MP พร้อมระบบ auto focus โดยมีหน่วยความจำให้เลือกระหว่าง 16GB และ 32GB ราคา ยังไม่มีการยืนยันจากทาง Best Buy แต่คาดว่าน่าจะราคา $479 และ $579 ตามลำดับ (14,370บาท และ 17,370 บาท โดยประมาณ) 
Engadget รายงานว่าแทบเลตตัวแรกของ Toshiba ชื่อว่า Thrive ใกล้จะวางจำหน่ายแล้ว โดยในรุ่น 16GB Wi-Fi จะวางจำหน่ายในวันที 10 กรกฎาคม หลังจากเปิดให้จองตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน ทาง Best Buy





ข้อมูลข่าว
http://www.techxcite.com

2 BlackBerry ตัวใหม่ BlackBerry Bold 9900 และ BlackBerry Touch 9860



   ก่อนหน้านี้หลายคนคงจะได้ตามข่าวมาบ้างว่าสำหรับตัว BlackBerry Bold 9900 นั้นจะขายกับทาง Virgin Mobile ที่แคนาดา แต่มีอีก 1 เครือข่ายที่ไม่น่าแปลกใจเท่าไรที่ได้มันไปขายเช่นเดียวกันก็คือทาง Telus นอกจากนี้อาจจะรวมถึงเจ้าตัว BlackBerry Touch 9860 ที่ยังไม่มีการเปิดตัวอีกด้วย
สำหรับภาพมีทั้ง 2 ตัวด้วยกันคือ 9900 และ 9860 ที่ใช้งานบนเครือข่าย Telus ซึ่งภาพนี้มาจากทาง Twitter นี่เป็นการส่งสัญญาณคร่าวๆแล้วว่าอีกไม่นานเราได้เห็นมันลงสู่ตลาดแน่นอน ถึงแม้ว่าตัว Touch 9860 นั้นจะยังคงเงียบไม่มีการเปิดตัวอะไร แต่มีมีข้อมูลหลุดออกมาแล้วก่อนหน้านี้เกี่ยวกับส่วนของ Spec และ OS ไม่ต้องเดาก็คือ BlackBerry OS7 นั่นเอง โดยมีหน้าจอ 3.7 นิ้ว ความละเอียด WVGA เป็นหน้าจอสัมผัส, Wi-Fi, NFC, กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด 720p และใช้ CPU เป็นตัว Single-Core 1.2 GHz
สำหรับตัว 9860 นั้นมีตัวที่มาเป็นแบบ CDMA ด้วยแต่จะใช้ชื่อรหัสว่าเป็นตัว 9850 ซึ่งจะวางขายโดยทาง Sprint US

ข้อมูลข่าวจาก 

Samsung Galaxy Z เผยโฉม

     
    สำหรับใครที่อยากซื้อหาสมาร์ตโฟน Android 2.3 Gingerbread ระดับท็อปๆรุ่นใหม่ล่าสุดแต่ทุนทรัพย์มีไม่พอที่จะไปสอย Samsung Galaxy S II มาครอบครองได้เตรียมยินดีปรีดากันได้ถ้วนหน้าเลยหลังจากที่มีรายละเอียดล่าสุดหลุดออกมาจากค่าย Samsung แล้วว่าพวกเขาเตรียมที่จะส่งมือถือรุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า Samsung Galaxy Z ออกมาวางจำหน่ายแล้วพร้อมกับสเปคที่ว่ากันว่าเป็นรุ่นเล็กของ Galaxy S II ได้เลยทีเดียว
โดยสเปคและคุณสมบัติของ Samsung Galaxy Z บางส่วนนั้นจะได้รับการลดทอนลงมาจากรุ่น Samsung Galaxy S II อย่างละนิดอย่างละหน่อยในระดับที่สามารถรับได้ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตประมวลผล NVIDIA Tegra 2 แบบ Dual Core ความเร็ว 1GHz (จากเดิม Samsung Exynos ความเร็ว 1.2GHz), กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (จากเดิม 8 ล้านพิกเซล) รวมถึงหน้าจอแบบ Super Clear LCD ขนาด 4.2 นิ้วด้วย (จากเดิม Super AMOLED Plus ขนาด 4.3 นิ้ว)
ในส่วนของราคาขายของ Samsung Galaxy Z นั้นมีการเปิดเผยมาแล้วว่าน่าจะอยู่ในระดับ $630 หรือประมาณ 18,900 บาทซึ่งถือว่าแทบจะเท่ากับราคาเปิดตัว Samsung Galaxy S II ในบ้านเราเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าทาง Samsung ประเทศไทยเองจะไม่คิดนำ Samsung Galaxy Z มาวางจำหน่ายในอนาคตอย่างแน่นอน ดังนั้นไม่ต้องรอกันเสียให้ยากจะดีกว่า

ข้อมูลลข่าว

เกาหลีใต้ทุ่ม 6 หมื่น ลบ. ใช้แทบเลตแทนหนังสือเรียนทั่วประเทศ ภายใน 2015


   ตอนนี้เป็นยุคของแทบเลตจริงๆ ครับ ล่าสุดประเทศเกาหลีใต้ประกาศทุ่มงบกว่าสองพันล้าน US ดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนให้นักเรียนในประเทศเกาหลีใต้หันมาใช้แทบเลต แทนการใช้หนังสือเรียน ตั้งเป้าทำให้ได้ทั้งประเทศภายในปี 2015
โครงการไร้กระดาษพันล้านนี้ มีเป้าหมายให้นักเรียนในยุคถัดไปได้ใช้แทบเลตพีซี แทนหนังสือเรียนทั้งหมด โดยรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ได้ทุ่มงบก้อนโตจำนวนกว่าสองพันล้าน US ดอลลาร์หรือประมาณ 60,000 ล้านบาท เพื่อให้การศึกษาของประเทศเป็นระบบ cloud system นักเรียนจะสามารถอ่านตำราเรียนได้ และสามารถทำแบบฝึกต่างๆ ที่อาจารย์สั่งได้ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนก็ตาม และมีกำหนดจะทำโครงการนี้สำเร็จภายในปี 2015
นอกจากโครงการนี้จะเป็นการพัฒนาการศึกษาของประเทศเกาหลีใต้แล้ว โครงการนี้ยังช่วยลดการใช้กระดาษ และช่วยลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย

ชัวร์หรือมั่วนิ่ม ไอโฟนรุ่นหน้ามี 2 เวอร์ชัน!


     สื่อนอกเสียงแตกกรณีการวิเคราะห์ของหน่วยวิจัย Deutsche Bank Equity Research ซึ่งเชื่อว่ามีความเป็นไปได้มากที่แอปเปิลจะเปิดตัวไอโฟน (iPhone) รุ่นหน้าเป็น 2 เวอร์ชัน ประกอบด้วยเวอร์ชันราคาประหยัดเจาะกลุ่มตลาดกลาง และเวอร์ชันราคาแพงเจาะกลุ่มตลาดบน

บางสำนักเชื่อมีความเป็นไปได้ที่แอปเปิลจะผ่าธรรมเนียมปฏิบัติจากเดิมที่มักเปิดตัวโทรศัพท์เพียง 1 รุ่นต่อปีเท่านั้น ขณะที่บางสำนักมองว่าเป็นไปได้ยากมากเพราะแอปเปิลจะได้ไม่คุ้มเสีย

คริส วิตมอร์ (Chris Whitmore) นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank Equity Research คือต้นตอของกระแสข่าวว่าแอปเปิลอาจเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่เป็น 2 เวอร์ชัน โดยระบุในบทวิเคราะห์ว่าแอปเปิลอาจเปิดตัวไอโฟนรุ่นถัดไปพร้อมกัน 2 เวอร์ชันในเดือนกันยายนนี้ ได้แก่ไอโฟนที่มีคุณสมบัติสเปกเครื่องที่ดีขึ้นกว่าไอโฟน 4 และไอโฟนรุ่นประหยัดที่ผู้ใช้จะสามารถใช้งานกับโอเปอเรเตอร์รายใดก็ได้และไม่ผูกสัญญา (ปลดล็อก) บนระบบเติมเงิน (pre-paid)

ไอโฟนราคาแพงสเปกดีขึ้นนั้นเป็นเรื่องปกติที่ต้องเป็นไป แต่ไอโฟนรุ่นประหยัดนั้นไม่ใช่ จุดนี้วิตมอร์เชื่อว่าไอโฟนรุ่นประหยัดจะจำหน่ายในราคาประมาณ 350 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 10,500 บาท คาดว่าการวางจำหน่ายไอโฟนเจเนอเรชันที่ 5 ในราคาประหยัดจะทำให้แอปเปิลสามารถเจาะตลาดได้เพิ่มอีกเกือบ 100 ประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ผู้คนนิยมใช้โทรศัพท์แบบเติมเงินมากกว่า

วิตมอร์เชื่อว่า การเปิดตัวไอโฟนเป็น 2 เวอร์ชันจะทำให้แอปเปิลสามารถรักษาฐานตลาดเดิมไว้พร้อมกับการขยายตลาดใหม่ โดยเฉพาะการชิงตลาดมาจากผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายอื่น จุดนี้วิตมอร์ขยายความว่าการเติบโตของตลาดโทรศัพท์มือถือราคาระดับกลางหรือ mid-range นั้นมีแนวโน้มเติบโตสูงสุดกว่าทุกกลุ่ม

“สมาร์ตโฟนกลุ่ม mid-range มีแนวโน้มเติบโตเร็วกว่ารุ่น premium (ราคาสูง) ถึง 3 เท่าตัว คาดว่าในปี 2014 ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนกลุ่ม mid-range จะนำหน้ารุ่น premium”

นอกจากนี้ วิตมอร์ยังเชื่อว่าปีนี้คือเวลาที่เหมาะสมสำหรับแอปเปิลในการลงมาเล่นในตลาด mid-range เพื่อขยายฐานตลาดเดิมที่แอปเปิลมีอยู่ ที่สำคัญการที่ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนราคากลางอย่างโนเกีย (Nokia) และอาร์ไอเอ็ม (Research in Motion) กำลังอ่อนแรงลงในขณะนี้ ยิ่งส่งเสริมให้แอปเปิลมีภาษีดีในการแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด

ในขณะที่สื่อหลายสำนักคล้อยตามการวิเคราะห์ของวิตมอร์ นักสังเกตการณ์บางรายกลับเชื่อว่าแอปเปิลจะเปิดตัวไอโฟนเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น โดยเฉพาะในประเด็นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระดับกลาง ซึ่งเชื่อว่าเป็นการค้านกับนโยบายบริษัทแอปเปิลมากเกินไป

สำนักข่าวไอที อีวีก (eweek.com) วิเคราะห์ไว้ว่า แอปเปิลมีนโยบายสร้างผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์คุณภาพสูงมาตลอด ทั้งไอโฟน ไอแพด ไอพอด รวมถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล จึงมีความเป็นไปได้น้อยที่แอปเปิลจะเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ตัวเองเดินตามมาหลายสิบปีในยุคของไอโฟนเจเนอเรชันที่ 5

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ จากแอปเปิลในขณะนี้ ทั้งเรื่องชื่อของไอโฟนรุ่นใหม่ที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็น iPhone 5 (สอดคล้องกับ iOS5) หรือ iPhone 4S (ปรับปรุงจาก iPhone 4 เล็กน้อย) โดยข่าวลือล่าสุดเกี่ยวกับไอโฟนรุ่นใหม่คือคำยืนยันจากผู้ผลิตในไต้หวันว่าไอโฟนใหม่จะพร้อมจัดส่งในช่วงกันยายนพอดี

นอกจากนี้ ผู้ผลิตในไต้หวันยังเปิดเผยว่าต้นแบบไอแพด 3 (iPad 3) แท็บเล็ตของแอปเปิลเวอร์ชันถัดไปจะพร้อมโชว์ได้ภายในต้นปีหน้า (2012) ซึ่งไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการเช่นเดิม

สำหรับความคืบหน้าด้านอื่น มีรายงานว่าแอปเปิลอาจเปลี่ยนฐานผลิตชิป A6 จากโรงงานของซัมซุงไปเป็นโรงงานของบริษัท TSMC หรือ Intel เพราะการฟ้องร้องระหว่างแอปเปิลและซัมซุงที่ยืดเยื้อและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แอปเปิลอาจตัดสินใจมองข้ามซัมซุงแล้วหันไปหาผู้ผลิตรายอื่นแทน แม้จะเป็นคู่ค้ากับซัมซุงมายาวนานนับตั้งแต่แอปเปิลคิดค้นหน่วยประมวลผล Apple A4 และล่าสุดคือ A5

ข่าวและข้อมูล Manager และ 
http://www.tlcthai.com/

ซูเปอร์คอมพ์ญี่ปุ่นเร็วสุดในโลก



       ความเร็ว 8 เพตาฟล็อปต่อวินาทีนั้นทำให้ "K Computer" ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของฟูจิตซึสามารถประมวลผลได้ถึง 8 พันล้านล้านคำสั่งใน 1 วินาที ส่งให้ K Computer กลายเป็นซูเปอร์คอมพ์เบอร์ 1 ในการจัดอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์โลก Top500 Supercomputing List

ผลการจัดอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทั่วโลก Top500 Supercomputing List ครั้งล่าสุดนั้นถูกเปิดเผยในงานประชุมที่เมืองฮัมเบิร์ก ประเทศเยอรมนีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รายละเอียดจากการประกาศผลการจัดอันดับครั้งนี้คือ K Computer เป็นผลงานการพัฒนาโดยสถาบันวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ก้าวหน้า RIKEN Advanced Institute for Computational Science ซึ่งตั้งอยู่ที่โกเบ ประเทศญี่ปุ่น

K Computer สามารถคว่ำแชมป์เก่าอย่าง Tianhe-1A ซูเปอร์คอมพ์แดนมังกรที่ผลิตโดยศูนย์ซูเปอร์คอมพิวติงแห่งชาติจีนในเมืองเทียนจิน National Supercomputing Center ซึ่งเคยทำสถิติได้ 2.6 เพตาฟล็อปต่อวินาที

K Computer ไม่ได้พิเศษที่การใช้ซีพียู 80,000 ตัว แต่อยู่ที่ซีพียูทุกตัวเป็นชิป 8 คอร์ประมวลผล ทำให้ K Computer สามารถทำสถิติเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงที่สุดในโลกขณะนี้

การเป็นแชมป์ของญี่ปุ่นครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Earth Simulator ซูเปอร์คอมพ์ของเอ็นอีซี (NEC) สามารถคว้าแชมป์ได้ในเดือนพฤศจิกายนปี 2004 และครองแชมป์ต่อเนื่องได้ 2 ปี

นอกจาก Tianhe-1A ซูเปอร์คอมพ์ความเร็วอันดับ 3 ของโลกในขณะนี้คือ Jaguar ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯซึ่งเป็นฝีมือการพัฒนาโดยสถาบันวิจัยแห่งชาติ Oak Ridge National Laboratory ความเร็วที่บันทึกไว้คือ 1.75 เพตาฟล็อป

อันดับที่ 4 คือ Nebulae ของศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์แห่งชาติจีนในเมืองเซ่นเจิน ความเร็ว 1.27 เพตาฟล็อป และอันดับที่ 5 คือ Tsubame 2.0 ของสถาบันเทคโนโลยีโตเกียว Tokyo Institute of Technology ความเร็ว 1.19 เพตาฟล็อป

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ความเร็วระดับเพตาฟล็อปหรือพันล้านล้านคำสั่งต่อวินาทีนั้นถูกนำไปใช้ในงานที่ต้องการระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีความสามารถในการประมวลผลสูงเป็นพิเศษ เช่นในอุตสาหกรรมพลังงาน การพยากรณ์อากาศ ฯลฯ โดยการสำรวจพบว่า ซูเปอร์คอมพ์ 75 ระบบใน 500 ระบบ (15%) ถูกใช้เพื่อการวิจัย ขณะที่ 36 ระบบใช้ในอุตสาหกรรมการเงิน 33 ระบบถูกใช้ในอุตสาหกรรมงานบริการ โดย 23 ระบบถูกใช้ในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต และอีก 20 ระบบถูกใช้ในด้านการทหาร

ไอบีเอ็ม (IBM) เป็นแชมป์โลกผู้ผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งติดอันดับ 500 มากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 42% ตามด้วยเอชพี 31% และบริษัทเครย์ (Cray) อีก 6% โดยประเทศที่มีการใช้งานซูเปอร์คอมพ์มากที่สุดในโลกคือสหรัฐอเมริกา 256 ระบบ รองลงมาคือจีน 62 ระบบ เยอรมนี 30 ระบบ อังกฤษ 27 ระบบ ญี่ปุ่น 26 ระบบ และฝรั่งเศส 25 ระบบ


ขอบคุณข่าว Manager

IE 10 Platform Preview 2 มาแล้ว

     
IE 10 Platform Preview 2 สำหรับนักพัฒนาได้ทดสอบประสิทธิภาพ และแนวทางการพัฒนาเว็บไซต์ และเว็บแอพฯ ที่เข้ากันได้กับ IE 10 โดยทางไมโครซอฟท์มีแผนที่จะส่งมอบบราวเซอร์เวอร์ชันสมบูรณ์ไปกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 และผู้ใช้ Windows 7 ในช่วงปีหน้า

สำหรับ IE 10 PP2 เผยให้เห็นถึงคุณสมบัติใหม่ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์เว็บไซต์ อย่างเช่น การทำ Positioned Floats ของ CSS3 ที่ช่วยให้การจัดเลย์เอาต์บนหน้าเว็บคล้ายนิตยสารมากขึ้น ฟังก์ชันลากแล้ววาง (Drag-n-Drop) ด้วย HTML5 ตลอดจนการใช้ File Reader API และ Media Query Listeners รวมถึงฟอร์มรูปแบบต่างๆ ของ HTML5 นอกจากนี้ การรันแอพพลิเคชันที่พัฒนาบน HTML5 ยังได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นในขณะที่ไม่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มากเกินไปอีกด้วย อีกจุดหนึ่งที่พบใน IE 10 PP2 ก็คือ การพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการสนับสนุน HTML5 Sandbox และ iFrame Isolation


และเช่นเดียวกับการเปิดแพลตฟอร์มพรีวิวที่ Microsoft ได้ปฏิบัติมาตั้งแต่ IE 9 จนถึง IE 10 นั่นก็คือ การไฮไลท์ประสิทธิภาพการทำงานที่แตกต่างของเว็บแอพฯ และการโหลดหน้าเว็บบน IE กับบราวเซอร์คู่แข่ง โดยคุณผู้อ่านของเว็บไซต์ arip ที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียด หรือดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ IE 10 Test Drive ซึ่งการโชว์ออฟสำหรับ IE 10 Platform Preview 2 ก็จะมีชุดหิ่งห้อยยามค่ำ (Fireflies) การจำลองภาพน้ำพุเต้นระบำ (Fountains) และการนำเสนอเว็บไซต์ How Stuff Works ด้วยการใช้คุณสมบัติใหม่ของ IE 10 PP2 และตัวอย่างอื่นๆ อีก 9 แบบด้วยกัน 


นอกเหนือจากประเด็นต่างๆ ข้างต้นแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การที IE 10 ทำงานร่วมกับบริบทของ Windows 8 เพราะนั่นหมายความว่า ระบบปฏิบัติการรุ่นต่อไปของ Microsoft จะสนับสนุน HTML5, CSS3 และ JavaScript โดยเฉพาะการรันโค้ด JavaScript ด้วยโพรเซสแบคกราวด์ที่มีอยู่ใน IE 10 PP2 รวมถึง API จัดการ HTML5 ทีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นั่นหมายความว่า Windows 8 จะสามารถรองรับการรันแอพฯ ทั้งในเครื่อง และบนเน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง ซึ่งรายละเอียดในเรื่องนี้คงต้องติดตามกันต่อไป


ข่าวจาก arip

จีพีเอสคึก ESRI เปิดตัว 'การ์มิน' รุ่นใหม่ สู้เครื่องจีน




อีเอสอาร์ไอ เปิดตัว "GARMIN nüvi 2575" จีพีเอสรุ่นล่าสุด หน้าจอ 5 นิ้วแสดงผลชัดเจน ตั้งเป้ายอดขายแสนเครื่องภายในสิ้นปี มั่นใจคุณสมบัติชนะเครื่องจีน...
นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่าอุปกรณ์นำทางด้วยดาวเทียม (จีพีเอส) แบรนด์ GARMIN เปิดเผยว่า ล่าสุด บริษัทฯ เปิดตัว จีพีเอส GARMIN nüvi 2575 ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 60-70% ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดการณ์ยอดจำหน่ายในปีนี้ ที่ 100,000 เครื่อง...


คุณสมบัติ:

GARMIN nüvi 2575,Thai  ขนาดหน้าจอ 5” แสดงผลชัดเจนเต็มตา เลือกค้นหาสะดวกสบาย มาพร้อม Analog TV ให้ท่านไม่พลาดรายการ Free TV ในช่วงระหว่างที่คุณออกเดินทางและ สนับสนุนการเชื่อมต่อต่อกล้องมองหลัง Rear Camera Connector  หรือ  Driving Recorder ชนิด CMOS High Definition Video Camera บันทึกภาพและเสียงเหตุการณ์ตลอดเส้นทาง  อีกทั้งรองรับการแสดงผลข้อมูลจราจร(TMC Service : Traffic Message Channel Service)

GARMIN nüvi 2575,Thai มาพร้อมกับคุณสมบัติ Function ลูกเล่นหลากหลาย เช่น
1)    TTS : Text to Speech ระบุชื่อถนน ซอย ในการนำทาง
2)    myTrends™ สามารถกำหนดจุดหมายปลายทางจากลักษณะพฤติกรรมของเจ้าของเครื่องจากเส้นทางหรือช่วงเวลาที่นำทางเป็นประจำได้
3)    Custom Menu ปรับเปลี่ยนคำสั่งที่ต้องการใช้บ่อยบนหน้าเมนูหลักได้
4)    Route / Area Avoidance ตั้งค่าหลีกเลี่ยงเส้นทาง หรือพื้นที่ที่ไม่ต้องการนำทางผ่านได้
5)    Prompted in calculation mode กำหนดเลือกรูปแบบนำทางเวลาที่เร็วกว่า / ระยะทางสั้นได้อย่างสะดวกรวดเร็ว จากหน้าจอแผนที่
6)    Search near center of map ค้นหาสถานที่ใกล้เคียงตำแหน่งปัจจุบันได้รวดเร็วมากขึ้น
7)    Garmin Locate ค้นหาตำแหน่งจอดรถล่าสุดได้ด้วยเครื่อง Garmin
8)    Route  Planning กำหนดวางแผนเส้นทาง ได้ 100 เส้นทาง
9)    Function : Where Am I?  บอกตำแหน่งของคุณ เพียงแตะที่หน้าจอจะแสดงค่าพิกัดรุ้งแวงที่แม่นยำ รวมไปถึงที่อยู่ สี่แยก โรงพยาบาล สถานีตำรวจ ปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน, Trip Log แสดงรอยทาง, เปิด/ปิด แสดง Speed Limit เพื่อเตือนความเร็วที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย, การนำทางด้วยรูป Photo navigation โดยโปรแกรม Panoramio™ และล่าสุดกับ ecoRoute™ โปรแกรมรายงานอัตราสิ้นเปลืองพลังงาน
10)   GARMIN nüvi 2575 มาพร้อมกับชุดข้อมูลแผนที่ Thailand Street Map version ล่าสุดทั้งแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ติดตั้งมาพร้อมภายในเครื่อง รับประกันข้อมูลแผนที่ระยะเวลา 1 ปี และล่าสุดมาพร้อม  Malsingmaps แผนที่ประเทศ Malaysia / Singapore / Brunei (ไม่มีรับประกันปรับปรุงข้อมูลแผนที่) แสดงข้อมูล Junction View โดยนำคุณไปยังเลนที่ถูกต้องด้วยภาพเสมือนจริงในแยกถนนที่ใกล้ถึง พร้อมด้วยลูกศรแสดงเลนที่คุณควรอยู่ในขณะนั้นเพิ่มข้อมูลทางออก Highway Mode ในถนนสายหลัก ต่าง ๆและทางด่วน ซึ่งแสดงทางออกที่ใกล้ถึงทำให้การนำทางสะดวกยิ่งขึ้นเมื่อถึงแยกหรือทางออกที่ไม่คุ้นเคย และปรับเพิ่มทางเข้า-ออก อาคาร สถานที่สำคัญต่าง ๆค้นหาจากหมายเลขโทรศัพท์
11)   รองรับรายงานข้อมูลจราจรด้วยสัญญาณ FM (FM Traffic compatible) (เมื่อใช้สายรับสัญญาณ Garmin  GTM35  : FM traffic receiver with vehicle power cable โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
12)    มี Analog TV ให้ท่านไม่พลาดรายการ Free TV
13)   สามารถเชื่อมต่อต่อกล้องมองหลัง Rear Camera Connector  หรือ  Driving Recorder ชนิด CMOS High Definition Video Camera เพื่อบันทึกภาพและเสียงเหตุการณ์ตลอดเส้นทาง (เป็นอุปกรณ์เสริม)
14)   มี custom points of interest (POIs) เช่นจุดตรวจสอบความเร็ว และให้คุณตั้งค่าเตือนแบบ proximity alerts เพื่อเตือนคุณถึงจุด POI ที่ใกล้ถึงได้ ด้วยการทำนายตำแหน่งดาวเทียม HotFix™ ได้ล่วงหน้า และคำนวณตำแหน่งของคุณได้เร็วขึ้นเพื่อนำทางคุณไปได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
15)   มีโปรแกรมดูภาพ JPEG นาฬิกาโลกพร้อมโซนเวลา โปรแกรมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา โปรแกรมแปลงหน่วยวัด เครื่องคิดเลข และอื่นๆ
16)   มี Bluetooth Hand free เพื่อให้คุณสามารถสื่อสารได้โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย

ขอบคุณข้อมูลจาก