5.7.54

ที่สุดแห่งพลังซูมเอฟกว้าง Sigma 120-300mm F2.8 EX DG OS APO HSM

   
   ปกติในวงการภาพถ่ายของบ้านเราก็มักจะคุ้นเคยกับเลนส์ซิกม่าขอบแดง ราคาหกเจ็ดพันปลายๆ อย่าง Sigma 70-300 APO Macro ปกติในวงการภาพถ่ายของบ้านเราก็มักจะคุ้นเคยกับเลนส์ซิกม่าขอบแดง ราคาหกเจ็ดพันปลายๆ อย่าง Sigma 70-300 APO Macro ซึ่งเป็นเลนส์ที่ทั้งมือใหม่และมืออาชีพต้องเคยผ่านมาบ้าง ไม่เว้นแม้แต่ผู้เขียนเองก็เคยใช้เลนส์รุ่นนี้เหมือนกัน เลนส์ Sigma มักจะเป็นเลนส์ที่คุ้มค่ากับราคาอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็น 10-20mm / 17-50mm f2.8 / 70-200mm f2.8 ซึ่งราคาของเลนส์ค่ายนี้ก็ค่อนข้างถูกกว่าของค่ายกล้องมากพอสมควร ยังไม่นับเลนส์ Fix ที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น 50mm f1.4 หรือ 85mm f1.4 ที่ขาดตลาดกันไปแล้ว นอกจากเลนส์เหล่านี้ Sigma ก็ยังมีความถนัดเลนส์ซูปเปอร์ซูมอย่าง 120-400mm หรือ 150-500mm เช่นกัน และวันนี้ก็มีเลนส์ Sigma 120-300mm f2.8 ออกสู่ตลาด ผมไม่ได้พิมพ์ผิดแน่นอนครับ f2.8 ตลอดช่วง
สำหรับผมแค่ 70-200mm f2.8 มันก็หรูแล้วครับ ซึ่งเปิดตัวเลนส์ซูมเอฟกว้างพร้อมระบบกันสั่นไปไม่นาน ราคาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลครับ ไม่เหมือนของค่ายกล้อง ราคาก็ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจได้ แต่สำหรับ Sigma 120-300mm F2.8 EX DG OS APO HSM (ยศยาวซะเหลือเกิน) จะเป็นไปได้หรือ มีระบบกันสั่นด้วย และเลนส์ทรงพลังขนาดนี้เอาไปทำอะไรกัน
ก่อนหน้านี้ทาง Sigma เองก็มีซูปเปอร์ซูมอย่าง Sigma 120-400mm F4.5-5.6 DG APO OS HSM หรือ Sigma 150-500mm F5-6.3 APO DG OS HSM อยู่มาบ้าง โอเคตัว Sigma 120-400mm ก็พอจะมาสู้กับ EF 100-400L IS ของ Canon ได้อยู่ ส่วนตัว Sigma 150-500mm นั้นคอถ่ายภาพนกก็คงคุ้นเคยดี แล้ว Sigma 120-300mm F2.8 EX DG OS APO HSM นั้นอยู่ตรงกลางระหว่างความต้องการช่วงซูมเยอะๆ และใช้งานในบริเวณที่แสงไม่อำนวยด้วย ซึ่งก็ยังไม่เคยมีเลนส์เจ้าไหนทำได้ เหมือนอารมณ์ที่ Sigma 12-24mm ซึ่งใช้กับกล้อง Full Frame ได้นั่นแหละ ค่ายกล้องหงายเก๋งไปตามๆ กัน เนื่องจากเป็นเลนส์มุมกว้างที่สุดในโลก
สเปคของเลนส์ตัวนี้ครับ

   ดูสเปคเสร็จนึกถึงภาพนี้เลยครับ ฟิลเตอร์ 105mm ฟิลเตอร์ขนาดเท่ากับปืนใหญ่ประจำกองทัพไทยเลยครับ 105mm ซึ่งแน่นอนให้เดาน่าจะใส่ได้แต่คงเป็นทางด้านหลัง หน้าเลนส์ใหญ่มาก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเลยครับ
สรุปกันหน่อยว่ามีอะไรที่เจ๋งบ้างสำหรับเลนส์ตัวนี้
- f2.8 ตลอดช่วง เหลือล้นเกินความจำเป็น
- 120-300mm ซึ่งสามารถนำมาถ่ายภาพนก Portrait Widelife Candid ได้แน่นอน
- มีระบบกันสั่นแบบ OS ของซิกม่า
- มอเตอร์ความเร็วสูง HSM

จุดสังเกตุ
- ฟิลเตอร์ 105mm
- น้ำหนัก 3 กิโล
- ราคา 149000 คูณจากค่าเงิน 30 บาทกว่าๆ


ข้อมูลข่าว


Nokia 5230 เบียด iPhone, Android ครองเบอร์หนึ่งมือถืออินเทอร์เน็ตในประเทศจีน!


    แม้ว่าตลาดสมาร์ตโฟนในประเทศจีนเวลานี้จะค่อนข้างเติบโตแบบก้าวกระโดดชนิดที่เรียกได้ว่าไม่ว่าจะมีมือถือรุ่นใหม่ๆตัวไหนออกมาชาวจีนก็จะได้มีสิทธิ์ใช้งานก่อนชาวบ้านชาวช่องทั่วไปเขา ทว่ากับสถิติล่าสุดที่ออกมานั้นดูจะน่าแปลกใจอยู่ไม่น้อยทีเดียวเมื่อมีการระบุตัวเลขออกมาแล้วว่าโทรศัพท์มือถือที่ชาวจีนใช้งานในการท่องเว็บเบราเซอร์มากที่สุดหาใช่ iPhone 4 หรือสมาร์ตโฟนAndroid หลากรุ่นหลายยี่ห้อแต่อย่างใดไม่ ทว่ากลับเป็นมือถือแบบบ้านๆอย่าง Nokia 5230 เสียอย่างนั้น!
   โดยรายงานดังกล่าวได้รับการเปิดเผยโดยบริษัทการตลาดแห่งหนึ่งที่จัดทำสถิติสำรวจเพื่อหาว่าคนจีนส่วนใหญ่ใช้มือถือประเภทไหนกันแน่ในใช้งานอินเทอร์เน็ตและโลกออนไลน์ต่างๆ ซึ่งผลที่ออกมานั้นก็ค่อนข้างจะเซอร์ไพรส์อยู่ไม่น้อยว่าชาวจีนส่วนใหญ่ยังยึดติดอยู่กับแบรนด์ Nokia (เจ้า Nokia 5230 ที่ว่าก็ออกวางขายตั้งแต่ปี 2009 นู่นแล้ว) และ Symbian OS ที่ค่อนข้างล้าสมัยไปแล้วในการใช้งานอินเทอร์เน็ตนอกบ้าน ในขณะที่ iPhone รั้งอันดับสองตามมาด้วยตัวเลขห่างอยู่พอประมาณส่วนสมาร์ตโฟน Android นั้นรั้งอันดับห้าแบบต่างกันครึ่งต่อครึ่งกับ Nokia 5230 เลยทีเดียว
  สำหรับสาเหตุหลักๆที่ทำให้ Nokia ยังคงครองใจชาวจีนส่วนใหญ่ก็ด้วยความที่มันมีราคาขายที่ค่อนข้างจะถูกมากหากเทียบกับiPhone ที่ผู้ใช้งานยังคงเป็นกลุ่มเจ้าขุนมูลนายเสียเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ Ovi App Store ของ Nokia ก็ยังถือได้ว่าเป็นแหล่งจำหน่ายแอปพลิเคชันแบบออนไลน์ที่มีผู้เข้าใช้งานสูงสุดในประเทศจีนถึง 65.2% เหนือกว่า App Store (13.7%) ของApple และ Google Android Market (9.4%) ประมาณเกือบๆ 3-4 เท่าเสียด้วยสิ

ข้อมูลโดย

iPhone 5 ล็อตแรกเริ่มกระบวนการผลิต 15 ล้านเครื่อง, Apple พร้อมจำหน่ายกันยายนนี้!


      โดยบริษัท Pegatron ดังกล่าวซึ่งรับหน้าเสื่อเป็นผู้ผลิต iPhone 4 CDMA (Verizon) ด้วยนั้นกล่าวว่าพวกเขาได้เริ่มจ้างแรงงานเข้ามาเพิ่มเพื่อรับมือกับปริมาณความต้องการสินค้า iPhone 5 จากผู้บริโภคทั้งหลายที่คาดว่าคงจะล้นหลามเช่นเคยอย่างแน่นอน ซึ่งเจ้า iPhone 5 จะพร้อมออกวางจำหน่ายภายในเดือนกันยายนนี้ ทว่าใครที่อยากจะเห็นฟีเจอร์ใหม่ๆหรือนวัตกรรมพลิกโลกคงจะต้องผิดหวังเล็กน้อยเพราะทาง Pegatron ยืนยันว่า iPhone 5ที่ว่านี้จะเป็นเพียงการอัพเกรดเครื่อง iPhone 4 รุ่นก่อนด้วยคุณสมบัติใหม่เล็กๆน้อยๆเท่านั้น (ถ้าจะเรียกว่าเป็นรุ่น iPhone 4Sก็คงไม่ผิดนัก)สำหรับ iPhone 5 นั้นมีข่าวลือความเคลื่อนไหวเข้ามาอย่างต่อเนื่องทีเดียวในช่วงนี้ โดยหลายฝ่ายคาดการณ์กันว่าตัวเครื่องได้เข้าสู่กระบวนการทดสอบขั้นสุดท้ายก่อนวางขายจริงแล้วและจะมาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ๆเช่นซีพียู A5 แบบ Dual Core ตัวเดียวกับใน iPad 2, กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รองรับทั้งระบบ GSM และ CDMA รวมไปจนถึงดีไซน์ภายนอกที่ยังไม่น่าจะเปลี่ยนโฉมออกไปจาก iPhone 4 มากนักด้วย
มาอีกแล้วกับข่าวดีข่าวเด็หลังเว็บไซต์ Digitimes รายงานว่าบริษัท Pegatron จากประเทศไต้หวันซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ให้กับ Apple ออกมายืนยันแล้วว่าพวกเขาได้รับออร์เดอร์ในการเดินสายกระบวนการผลิตล็อตแรกสำหรับ iPhone 5 จากทาง Apple มาแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 15 ล้านเครื่องด้วยกัน
ข้อมูลข่าว

Sony เริ่มผลิต PlayStation 4 เครื่องเล่นเกมแห่งอนาคต พร้อมวางขายปี 2012

    
   มีรายงานข่าวออกมาจากบริษัท Foxconn and Pegatron Technology ผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของ Sonyในไต้หวันกล่าวว่า บริษัท Sony Computer เตรียมที่จะเดินหน้าผลิต PlayStation 4 หรือ PS4 เครื่องเกมสุดฮิตแห่งอนาคต โดยมีกำหนดที่จะวางจำหน่ายภายในปี 2012 PS4 จะมีระบบการทำงานโดยเน้นให้ผู้เล่นได้เคลื่อนไหวร่างการในการเล่น เหมือนกันเครื่อง Wii ของ Nintendo หรือKinect บน Xbox360 ของค่ายคู่แข่งสำคัญอย่าง Microsoft โดย Sony คาดว่าจะผลิตเครื่องเล่นเกมแห่งอนาคตPlayStation 4 ถึง 20 ล้านเครื่อง และวางจำหน่ายภายในปีหน้าที่จะถึงนี้



ข้อมูลโดย



Tablet 7 นิ้ว Sharp Galapagos ผ่าน FCC แล้ว


 Sharp Galapagos เป็น Tablet Android ที่ทาง Sharp น่าจะนำเข้ามาตีตลาดที่ US ด้วยการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ออกเป็นหลายรุ่น
Sharp ก็เป็นเอีกแบรนด์ที่เข้ามาลุยในตลาด Mobile กับเขาด้วยเช่นกัน โดยตอนนี้พวกเขากำลังทำ Tablet Android ออกมาแข่งกับเจ้าอื่นด้วย แต่น่าเสียดายที่รายละเอียดต่างๆยังไม่มีเผยออกมาแต่อย่างใด นอกจากรู้เพียงว่าขนาดของตัวเครื่องและชื่อจองมันโดยตัวเครื่องนี้มีชื่อว่า "Galapagos"
สำหรับชื่อนี้เคยมีข่าวลืออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะเป็น Tablet ที่มีขนาด 5 และ 10 นิ้ว และสำหรับรุ่น 10.8 นิ้วผ่านการตรวจสอบจากทาง FCC ไปได้สักพักแล้ว แต่วันนี้เองมีอีกรุ่นคือ 7 นิ้ว ก็ผ่าน FCC แล้วเช่นกัน
แน่นอนว่าถ้าผ่าน FCC แบบนี้แสดงว่าคงจะนำมาจำหน่ายที่ประเทศ US อย่างแน่นอน ตอนนี้ดูเหมือนว่า Galapagos จะถูกแบ่งเป็นหลายขนาดมาก แถมตัว OS ที่จะใช้ก็น่าสนใจก็น่าสนใจ ถ้าให้เดาคือน่าจะเป็น Android Honeycomb ไม่ก็ Ice Cream Sandwich ไปเลย ทาง Sharp เองน่าจะมองเอา Tablet เข้ามาขายด้วยราคาที่ไม่แพงนักเพื่อต่อกรกับ iPad 2 และ Xoom และอื่นๆ




ขอบคุณข่าว

Samsung จัด Nexus S ราคาพิเศษเพียง 11,900 บาทเเอง !!

   Samsung เล่นหนักอีกแล้ว โดยจับมือกับ Samsung Party ลดราคา Nexus S เหลือเพียง 11,900 บาทเท่านั้น

Samsung ประเทศไทย เขย่าตลาด Android แรงๆ อีกครั้ง โดยจัดแคมเปญ ลดราคา Samsung Nexus S จากราคา 14,900 บาท เหลือเพียง 11,900 บาท จำนวนจำกัดเพียง 300 เครื่องเท่านั้น ผ่านช่องทาง samsungparty.com

ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อโหลดรับคูปองส่วนลด 3,000 บาท เพื่อไปแลกซื้อได้ที่ Studio Phone 

ข้อมูลข่าว

Amazon Tablet เปิดตัวปีนี้


  หลังจากประสบความสำเร็จกับ Kindle ไปแล้ว Amazon ก็ยังแอบซุ่มพัฒนา Tablet รุ่นใหม่ตามกระแสนิยมพร้อมเปิดตัวในปีนี้
ไหน ๆ Kindle ก็ยังมีชื่อและยอดขายไม่เลวเลย Amazon ก็เตรียมลุยตลาด Tablet สู้กับ iPad2 กับเขาบ้างด้วยการซุ่มพัฒนา Tablet แบรนด์ของตัวเองถึง 2 รุ่น แหน่ะแถมยังใช้ Android อีกต่างหาก รหัสพัฒนา Coyote (นึกถึงสาวบาร์เหล้าชอบกล **) และ Hollywood และว่ากันว่า Amazon สั่งซัพพลายเออร์ Quanta ปั๊ม Tablet ตัวเก่งถึงปีละ 7-8 แสนตัว

Amazon Coyote (ไม่ Ugly) จัดสเปคชิป Nvidia Tegra2 ส่วน Amazon Hollywood ใช้ชิปแบบ Quad Core "kal-ed" ปัญหาสำคัญของ Amazon สั่งผลิตจำนวน 1.5-2 ล้านเครื่องภายในเดือนกันยายน แต่เมื่อ iPad2 ประสบความสำเร็จอย่างสูงก็ทำให้คู่แข่งทุกรายต้องขบคิดกันอย่างหนักเลยที เดียวว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี เพราะซัพพลายเออร์ผลิตหน้าจออย่าง TPK ก็ต้องผลิตหน้าจอให้ iPad เสียก่อน

ข้อมูลข่าว

แอลจีเผยโฉม ‘Optimus Pad’ แท็บเล็ตกล้อง 3D รุ่นแรกของโลก


     แอลจี เปิดตัวแท็บเล็ต LG Optimus Pad พร้อมกล้อง 3 มิติเป็นรุ่นแรกของวงการ หน้าจอขนาด 8.9 นิ้ว มาพร้อมฟีเจอร์และมัลติมีเดียครบครัน ตอบโจทย์การใช้งานเพื่อธุรกิจและความบันเทิง…
นายสมศักดิ์ อธิศัยตระกูล หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า LG Optimus Pad นับเป็นความสำเร็จอีกครั้งของแอลจี ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมนวัตกรรมครั้งแรกของโลกสู่ตลาดไทย ด้วยความพิเศษของกล้อง 3 มิติ สามารถบันทึกวิดีโอสามมิติได้สมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังมีดีไซน์แตกต่างด้วยขนาดที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกเพียงมือเดียว เชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ครบถ้วน ทั้งธุรกิจ การศึกษา และความบันเทิง
ทั้งนี้ LG Optimus Pad มาพร้อมหน้าจอ 8.9 นิ้ว ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายด้วยมือเดียว มีขนาดพอเหมาะสำหรับการแสดงผล จอภาพสัดส่วน 15:9 รองรับการแสดงผลทุกแอพพลิเคชั่นบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์อย่างสมบูรณ์แบบ ความละเอียดระดับ 1280×768 WXGA ให้สามารถรับชมภาพยนตร์และมัลติมีเดียในรูปแบบจอไวด์สกรีนความละเอียดสูงได้เต็มอรรถรส ภายใต้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชัน 3.0 (Honeycomb) ซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ ทำให้มีอินเทอร์เฟซที่ออกแบบมาให้คล้ายกับการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ ช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกคุ้นเคย
LG Optimus Pad ให้สมรรถนะการประมวลผลด้วยชิพ NVIDIA Tegra 2 ที่มีหน่วยประมวลผลแบบดูอัลคอร์ ความเร็ว 1 GHz ให้ประสิทธิภาพมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิงและการท่องเว็บรวดเร็ว ทั้งยังใช้งานแอพพลิเคชั่นและมัลติทาสก์กิ้งได้อย่างราบรื่น ขณะที่ กล้อง 3 มิติ ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอเป็นไฟล์ 3 มิติได้ทันที ทั้งยังเชื่อมต่อเพื่อรับชมผ่านทีวี 3 มิติ ได้อย่างสะดวกผ่านพอร์ท HDMI หรืออัพโหลดไปยัง YouTube 3D เพื่อรับชมผ่านเว็บไซต์ได้ที่ www.youtube.com/3D นอกจากนี้ LG Optimus Pad ยังแสดงไฟล์วิดีโอได้ที่ความละเอียด Full HD แบบ 1080 เฟรม ช่วยให้ถ่ายโอนคอนเทนต์ไปยังโทรทัศน์ที่มีความคมชัดเหมือนต้นฉบับ และมีฟังก์ชันประชุมทางไกลผ่านวิดีโอในตัวเหมาะสำหรับนักธุรกิจที่ต้องเดินทางบ่อย อย่างไรก็ตาม LG Optimus Pad มีวางจำหน่ายแล้วในราคา 24,900 บาท.

ส่วนตัว Spec ของ LG Optimus Pad นั้นก็มีดังนี้ :

- หน้าจอ 8.9 นิ้ว ความละเอียด WXGA 1280×768
- น้ำหนัก 654 กรัม
- CPU NVIDIA Tegra 2 dual-core 1GHz
- กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อม dual-lens เพื่อถ่ายภาพและวีดีโอ 3 มิติ
- Android 3.0 Honeycomb
- HDMI 1.4
- เล่นไฟล์ 3 มิติได้โดยที่ต้องใส่แว่น และแว่นมีขายต่างหาก
- เล่นไฟล์วีดีโอ 1080p ได้







ข้อมูลข่าว

บอทเน็ตใหม่ติดพีซี 4.5M พร้อมยิงสแปม

 รายงานข่าวล่าสุด นักวิจัยระบบรักษาความปลอดภัยเผย พบไวรัสพันธุ์ใหม่สามารถแพร่กระจายไปยังคอมพิวเตอร์ที่รัน Windows มากกว่า 4.5 ล้านเครื่องภายใน 3 เดือน นอกจากนี้ พวกมันยังเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ของเหยื่อให้กลายเป็น"บอทเน็ต" (botnet) ที่ยากต่อการทำลายอีกด้วย
 เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญพบ"บอทเน็ต"ที่ยากต่อการทำลาย แพร่กระจายติดไปยังคอมพิวเตอร์ทั่วโลกหลายล้านเครื่อง โดยส่วนใหญ่จะเป็นคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ในสหรัฐฯ สำหรับบอทเน็ตอันครายที่พนี้มีชื่อว่า TDL ซึ่งแพร่กระจายติดไปยังคอมพิวเตอร์ที่รัน Windows มากกว่า 4.5 ล้านเครื่องในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้สร้างบอทเน็ตได้ทำให้มันสามารถต่อกรกับซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยได้
 ผู้เชี่ยวชาญจาก Kaspersky Labs กล่าวว่า การอัพเกรดความสามารถของบอทเน็ตตัวร้ายครั้งล่าสุด (นับเป็ฯครั้งที่ 4 แล้ว) ทำให้มันได้ชื่อใหม่ว่า TDL-4 ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่มีความซับซ้อนมากทีสุดวันนี้ "ผู้สร้าง TDL พยายามที่จะทำให้มันเป็นบอทเน็ตที่ยากต่อการทำลาย โดยมันสามารถป้องกันตัวเองจากการถูกโจมตีจากซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส" ทั้งนี้บอทเน็ตดังกล่าวจะติดเข้าไปยังคอมพิวเตอร์ผู้ใช้ตามบ้านที่เชื่อมต่อเน็ต และเปลี่ยนตัวเองเป็นเครือข่ายอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่ควบคุมสั่งการผ่านเน็ตได้ เป้าหมายของมันคือ การขโมยข้อมูลจากเหยื่อ และใช้เครื่องพีซีที่ตกเป็นเหยื่อสแปมเมล์
TDL จะซ่อนตัวอยู่ในเว็บไซต์ต่างๆ โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่มีภาพโป๊ และภาพยนตร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ เมื่อผู้ใช้เข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์เหล่านี้ พวกมันก็จะติดตั้งตัวเองเข้าไปในระบบไฟล์ของ Windows ที่ยังไม่ได้ติดตั้งแพตช์อุดช่องโหว่ของไมโครซอฟท์ แม้รายงานข่าวก่อนหน้านี้จะมีการเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ Symantec เปิดเผยว่า มีการลดจำนวนของ SPAM ลงได้ถึง 75% แต่ดูเหมือน TDL-4 จะเป็นหนึ่งในมัลแวร์ที่พยายามจะทำให้สถิติดังกล่าวเปลี่ยนกลับไปตรงกันข้าม นักวิจัยกล่าวว่า ผู้สร้าง TDL-4 ได้พัฒนาระบบเข้ารหัสของตนเอง เพื่อห่อหุ้มตัวเองให้รอดพ้นจากการดักจับ ซึ่งทำให้มันเป็นไวรัส-บอทเน็ตที่ตามล่า และกำจัดได้ยากทีสุดในปัจจุบัน

ข้อมูลข่าว

4.7.54

สาวก iPad 2 เตรียมตัว Jailbreak มา


    บรรดาสาวกแท็บเบลตค่ายผลไม้ที่ตั้งตารอการ Jailbreak โปรดฟังทางนี้ ขณะนี้ทาง Comex ผู้พัฒนาโปรแกรม JailbreakMe ที่ใช้สำหรับแหกคุกน้อง iPad 2 ได้ทำการ Jailbreak ผ่านแล้ว (ดังภาพด้านบน) เหลือแต่ยังมีบั๊กบางประการที่อาจจะทำให้เรา ๆ ปวดหัวได้ถ้าเกิดได้ปล่อยออกมาตอนนี้ แต่ทางด้าน Comex เองก้ทำการ Tweet บอกอย่างเป็นทางการแล้วว่ามาแน่ เนื่องจากเข้าสู่ช่วง Beta แล้ว สาวกที่ชอบแหกคุกทั้งหลายก็เตรียมตัวติดตามข่าวอย่างกระชั้นชิดเลยละกันนะครับ รับรองว่าได้แหกสมใจอย่างแน่นอน

ขอคุณข่าว